ทุกวันนี้มีบริษัทเปิดใหม่มากมายเข้ามาทำธุรกิจ โดยใช้การตลาดแบบเครือข่าย มีทั้งที่เป็นของจริง และหลอกลวง บางคนเสียเงินไปมากมาย ทำธุรกิจไปแล้วเป็นปี สร้างทีมงานไว้หลายคน แต่สุดท้ายบริษัทปิดตัวไปก็มี
นี่คือตัวอย่างความเสียหายที่เคยเกิดขึ้น ถ้าหากเลือกบริษัทผิด
- นักธุรกิจเครือข่ายโดนตำรวจจับดำเนินคดี เพราะถูกกล่าวหาว่าไปแนะนำธุรกิจเครือข่ายที่ไม่ถูกกฎหมายให้กับคนอื่น
- ธุรกิจเครือข่ายที่เคยทำ กลายเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือ บริษัทเปิดมาเพื่อหลอกเอาเงินผู้คนโดยไม่มีสินค้า
- นักธุรกิจเครือข่ายจำนวนมากถูกลอยแพ หลังจากที่ลงทุนทำธุรกิจกันไปเป็นจำนวนมากแล้ว แต่บริษัทได้ปิดตัวลง เพราะธุรกิจล้มละลาย
- บริษัทธุรกิจเครือข่ายปิดบริษัทหอบเงินหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งความเจ็บปวดให้กับนักธุรกิจจำนวนมากที่สูญทั้งธุรกิจ เงิน เวลา และมิตรภาพ
- สินค้าเป็นอันตรายต่อผู้คน กินแล้วตายหรือเจ็บป่วย
เราจะมีวิธีเลือกบริษัทเครือข่ายอย่างไร ให้ปลอดภัย มั่นคง ให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน สืบทอดต่อไปยังลูกหลานได้
- หลักการในการเลือกธุรกิจเครือข่าย
- หลักการข้อที่ 1 บริษัทจดทะเบียนถูกต้อง และเปิดมามากกว่า 5 ปี
- หลักการข้อที่ 2 สินค้าดี มีความจำเป็นต้องใช้ และต้องซื้อซ้ำ
- หลักการข้อที่ 3 แผนการจ่ายผลตอบแทนคุ้มค่าและยุติธรรม
- หลักการข้อที่ 4 ต้องมีระบบที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้
- หลักการข้อที่ 5 มีผู้นำที่ดี
- ออฟไลน์หรือออนไลน์เลือกแบบไหนดี
- ข้อดีของการตลาดเครือข่ายแบบออฟไลน์และออนไลน์
หลักการในการเลือกธุรกิจเครือข่าย
ในการที่จะเลือกทำ ธุรกิจเครือข่ายบริษัทหนึ่ง เราควรจะใช้หลักการอะไรเพื่อให้รู้ ว่าบริษัทที่เราเลือกไปนั้น มันจะเวิร์คสำหรับเรา คือทำแล้วได้เงิน ได้เลื่อนตำแหน่ง มี Passive Income และสินค้าดีด้วย นี่คือ บทสรุป 5 หลักการ
หลักการข้อที่ 1 บริษัทจดทะเบียนถูกต้อง และเปิดมามากกว่า 5 ปี
จะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าจดทะเบียนไม่ถูกต้อง เช่น ชื่อไม่ตรง สินค้าไม่ตรง อาจจะกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ได้ ต้องระวังให้ดี
แล้วถ้าเกิดบริษัทนั้นกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ขึ้นมาจริงๆ แล้วเราแนะนำคนไปเยอะ เราจะกลายเป็นโดนหางเลขด้วยทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลย เพราะกฎหมายจะเอาผิดกับผู้นำด้วย
หลักการข้อที่ 2 สินค้าดี มีความจำเป็นต้องใช้ และต้องซื้อซ้ำ
สินค้าจะต้องดี และเป็นสินค้าที่ผู้คนจำเป็นจะต้องซื้อใช้ซ้ำทุกเดือน
เพราะธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจแห่งการซื้อซ้ำ ถ้าธุรกิจเครือข่ายและสินค้านั้นซื้อซ้ำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น เตียงแม่เหล็ก ไม่มีใครจะซื้อเตียงแม่เหล็กทุกเดือน
สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ประจำวัน สบู่ยาสีฟัน อาหารเสริม ครีมทาหน้า สินค้าพวกนี้คือคนต้องใช้ทุกวัน
หลักการข้อที่ 3 แผนการจ่ายผลตอบแทนคุ้มค่าและยุติธรรม
แผนการจ่ายผลตอบแทน ที่เหมาะสมและคุ้มค่า ทีมงานที่ทำก่อนหน้าเรา เติบโตขึ้นหรือไม่ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อทีมงานเพิ่มมากขึ้น
บริษัทนั้นจะต้องไม่จ่ายเงินเยอะจน Over Pay สุดท้ายก็ไม่มีเงินจ่ายปิดตัวไป อาจกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ไปได้
จะต้องเป็นแผนรายได้ที่ยุติธรรม คือใครทำมากก็จะได้รับค่าตอบแทนมาก ผู้ที่มาสมัครทำทีหลัง ถ้าขยันทำได้มาก ก็สามารถมีรายได้แซงคนที่ทำมาก่อนได้
หลักการข้อที่ 4 ต้องมีระบบที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้
ข้อนี้สำคัญมาก ให้ดูระบบ ว่าระบบของผู้นำ ว่าเขามีระบบที่จะสามารถพัฒนาให้เราทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จได้หรือไม่
ระบบนั้นอาจจะเป็นระบบแบบออฟไลน์ หรือระบบแบบออนไลน์ ก็ได้ (เรียนรู้เรื่องระบบได้ใน บทที่ 5 ออฟไลน์หรือออนไลน์เลือกแบบไหนดี , บทที่ 6 ธุรกิจเครือข่ายออฟไลน์ให้สำเร็จ, บทที่ 7 ทำธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ให้สำเร็จ
หลักการข้อที่ 5 มีผู้นำที่ดี
สำคัญมากว่า ทีมที่มาสปอนเซอร์ท่านมีผู้นำสัก 1 คนไหม ที่รู้จริงประสบความสำเร็จจริงแล้วสามารถสอนให้ท่านรู้จริง และประสบความสำเร็จจริงๆ ด้วย
ไม่จำเป็นว่าผู้แนะนำ จะต้องเก่งทุกคน แต่ควรจะมีผู้นำสัก 1 คนในสายงานที่เขารู้จริงในการช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จ ให้ดูคนที่มาสปอนเซอร์ท่านก่อน ว่าเขาจะสามารถช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จบ้างได้ไหม สอนได้หรือไม่ แนะนำได้หรือไม่ แล้วตัวท่านเมื่อเข้าไปทำธุรกิจ จะทำได้หรือไม่ ถ้าท่านทำงานร่วมกับเขาเหล่านั้น

ต้องการเป็นสมาชิกวงในกับเรา
ออฟไลน์หรือออนไลน์เลือกแบบไหนดี
ในยุคเริ่มต้นที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต หรือ เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางออนไลน์ยังไม่แพร่หลาย การสร้างธุรกิจเครือข่ายจึงใช้วิธีแบบดั้งเดิมหรือเรียกว่า ออฟไลน์ ด้วยการพูดคุยทางโทรศัพท์ หรือนัดเจอกัน บางครั้งต้องมีการเดินทางไกล ทำให้เสียเวลา และค่าใช้จ่ายมาก แต่ก็ยังมีคนที่ประสบความสำเร็จให้เห็นอยู่เสมอ
ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต การสื่อสารทำได้สะดวก รวดเร็ว ผู้ที่ใช้ประโยชน์จาก ออนไลน์ อย่างถูกวิธี ก็สามารถทำให้ลดค่าใช้จ่าย และเวลาลงเป็นอย่างมาก การสร้างธุรกิจก็สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีของการตลาดเครือข่ายแบบออฟไลน์และออนไลน์
การธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ และออฟไลน์ หลายคนสงสัยว่าอย่างไหนจะดีกว่ากัน
คนที่ทำเครือข่ายแบบดั้งเดิม มักทำผิดพลาดในการคิดว่า MLM ออนไลน์เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย
มันเป็นวิธีที่เร็วกว่า ในการเริ่มต้นกระบวนการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มคนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
ไม่ได้หมายความว่า ท่านจะต้องใช้ช่องทางออนไลน์ ในทางที่ผิด เช่นสแปม หรือคิดว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่การพูดคุยกับผู้คนจริง ๆ
ข้อดีของการทำธุรกิจเครือข่ายแบบออฟไลน์ คือ
- มีความสัมพันธ์ ที่จับต้องได้จริง ๆ
- สร้างความรับรู้และตื่นเต้นได้มากกว่า เมื่อเห็นคนอื่นทำได้และประสบความสำเร็จ
- เชื่อใจได้มากกว่า เพราะได้พบหน้าคนที่มาชวน
- สร้างเป็นระบบที่มีมานานแล้ว การเรียนรู้มีรูปแบบ
ข้อดีของการทำธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ คือ
- เป็นระบบที่ทันสมัยถูกกับยุคดิจิตอลในปัจจุบัน และในอนาคต
- ขยายสายงานได้ง่าย และรวดเร็ว เมื่อทำอย่างถูกวิธี โดยไม่ใช้วิธีสแปม
- เหมาะกับผู้ไม่ค่อยมีเวลา
- ลดต้นทุนได้มากกว่า เช่น ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเช่าห้องประชุม
- สามารถขยายสายงานได้ทั่วโลก โดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน
Leave a Reply